7 จุด ที่ ฉีดฟิลเลอร์ แล้วเห็นผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุด

1. ฟิลเลอร์ใต้ตา

เมื่อเราอายุมากขึ้นกระดูกใต้ตาจะยุบตัวลง เนื้อน้อยลง ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย สามารถแก้ไขได้ด้วยการเติมฟิลเลอร์ใต้ตา จะช่วยให้หน้าดูเด็กลง ใต้ตาสดใสขึ้น

2. ฟิลเลอร์คาง

ช่วยปรับรูปหน้าให้สมมาตรหรือหน้าเรียววีเชฟ ถ้าฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องก็จะได้ผลดีเป็นธรรมชาติไม่แพ้การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคางครับ

3. ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

การมีร่องแก้มลึกจะทำให้หน้าดูแก่กว่าวัยสามารถแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มซึ่งมีหลายเทคนิคครับ หมอจะประเมินว่าคนไข้แต่ละคนเหมาะกับเทคนิคไหน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

4. ฟิลเลอร์ปาก

สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนทรงปาก มีริมฝีปากบาง มีริ้วรอยบริเวณขอบปาก

ปากแห้ง สามารถใช้การเติมฟิลเลอร์ปากช่วยได้ โดยใช้เพียง 1 CC ก็ถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน

5. ฟิลเลอร์คาง

คือจุดสำคัญในการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนเข้ารูปมากขึ้นและเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้ง ไม่ว่าด้านการค้าขายหรือธุรกิจ มีความเชื่อว่าจะทำให้รับทรัพย์มากขึ้น มีคนช่วยอุปถัมภ์

6. ฟิลเลอร์หน้าผาก

ก็เป็นอีกส่วนที่ช่วยในการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนสวย เป็นที่นิยมในคนที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งและไม่อยากผ่าตัด ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เห็นผลทันทีหลังทำ

7. ฟิลเลอร์จมูก

เหมาะกับคนที่กลัวการผ่าตัดมาก ๆ ไม่มีเวลาพักฟื้นและต้องมีฐานจมูกอยู่บ้างแล้วต้องการฉีดเพื่อให้สันจมูกหรือปลายจมูกคมขึ้นเพียงเล็กน้อยจะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติครับ

1. ฟิลเลอร์ ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย และปรับโครงสร้างใบหน้า
2. เห็นผลทันที ไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น
3. มีความปลอดภัย ได้รับการรับรองจากอย. ไม่ทำให้เกิดการแพ้
4. ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
5. สามารถเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ หรือฉีดสลายออกโดยไม่เป็นอันตราย
6. แก้ไขในจุดที่เป็นปัญหาได้อย่างแม่นยำ ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ
7. ใช้แก้ปัญหาในจุดที่ต้องการความละเอียดสูงได้ดี เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม

เพื่อความปลอดภัยคนไข้ควรศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อว่ามีจุดสังเกตอะไรบ้าง และมีบริษัทนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมายหรือไม่สังเกตได้จาก

1. เลขทะเบียนอย. ที่กล่อง
2. มีเอกสารกำกับภาษาไทย
3. เลข lot ที่กล่อง ซอง สติกเกอร์หรือหลอด ตรงกัน
4. สามารถนำเลข lot โทรเช็คกับบริษัทนำเข้าได้

1. ศึกษาข้อมูลที่จำเป็น ทั้งการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน การเลือกหมอ เทคนิคในการทำ รวมไปถึงวิธีการสังเกตฟิลเลอร์แท้แต่ละยี่ห้อ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี คุ้มค่า
2. มียาและวิตามินบางชนิดที่ควรงดก่อนฉีดฟิลเลอร์ แอสไพริน,
3. NSAIDs, วิตามิน St. Johns Wort, ginko biloba,
4. primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E
5. งดยาผลัดเซลล์ผิว การดึงหรือโกนขนบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์
6. งดคอร์สเลเซอร์และนวดหน้าอย่างน้อย 3 วัน ก่อนฉีด
7. หากมีโรคประจำตัวหรือยาที่ต้องรับประทานประจำควรแจ้งแพทย์ก่อนทำทุกครั้ง
8. แพทย์จะพิจารณาให้กินยาห้ามเลือดหรือฉีดยาลดบวมในบางเคส เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมช้ำ อักเสบติดเชื้อ
9. สามารถแจ้งเพื่อขอแปะยาชาก่อนฉีดฟิลเลอร์ได้ และหมอจะฉีดยาชาในจุดนั้น ๆ ให้ด้วย

1. หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม
2. หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที นอกจากนี้ยังมียาแก้ปวด ลดบวมกลับไปให้ทานด้วยครับ
3. ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
4. ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
5. อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้ครับ
6. ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า

• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
• อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ หมูกระทะ ชาบู
• อาหารหมักดอง อาหารที่เผ็ดมาก ๆ จนหน้าแดง อาหารหวานจัดและอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด
• งดสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้าและส่งผลการรักษาอยู่ได้สั้นลงด้วย

1. หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดในจุดที่ฉีด อาจมีอาการบวมแดงหรือเขียวช้ำเป็นปกติ จะค่อย ๆ ดีขึ้นใน 2-3 วัน (หากหลังจาก 3 วันไปแล้ว มีอาการบวมมากขึ้นให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม
2. หากก่อนทำไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที นอกจากนี้ยังมียาแก้ปวด ลดบวมกลับไปให้ทานด้วยครับ
3. ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
4. ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดอย่างน้อย 1 เดือน
5. อย่าขยับผิวในจุดที่ทำมากโดยเฉพาะช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้ครับ
6. ควรงดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า